ดอกไม้ป่าที่ริมหน้าต่าง ตอนที่ ๑๑ NC


ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ



มนุษย์น้อยของมันซนนัก คล้องลำขายาวไว้ที่เอวของยักษ์ทีจนเสียหลักล้มทับ ไม่กลัวว่าตัวเองจะจุกที่รองรับน้ำหนัก ให้ร่างทั้งคู่ได้ซับซาบความอบอุ่นของกันและกันราวกับกลัวความเหน็บหนาว ทั้งที่ยามนี้อยู่ในฤดูร้อนแล้ว เจ้ายักษ์ยังตกใจไม่พอ มันเบิกตาขึ้นยามเรียวลิ้นเล็กหยอกมันด้วยการขยับมาเลียที่ริมฝีปาก
“อือ”
มันงับดูดดุนด้วยสัญชาตญาณอย่างที่แวนกัสเคยว่า กลืนกินริมฝีปากสีสวยที่มันอดทนอดกลั้นอย่างพอใจเสียยิ่งกว่าพอใจ ได้ยินเสียงแวนกัสหอบหายใจทางจมูกถี่ขึ้นราวใกล้จะขาดใจ แต่มันยังคงไม่พอ กระทั่งร่างน้อยกว่าส่งเสียงงอแงในลำคอ มันถึงยอมผละให้ได้โอกาสสูดลมเข้าปาก แล้วงับฉับอีกทีอย่างไม่อาจอิ่มเอมได้เพียงแค่จูบเดียว
ขาของแวนกัสเคลื่อนขยับยามแลกลิ้นจูบกัน เสียดสีกับสีข้างและชายโครงของมันราวกับสัตว์ป่าตัวเมียกำลังโหยหาตัวผู้ เจ้ายักษ์งุดลงสูดดมตามร่างโปร่งของอีกฝ่าย ปล่อยให้มนุษย์ได้มีโอกาสหายใจมากขึ้นกว่าเก่า แม้ร่องรอยการถูกจูบจะเด่นหราให้มันเห็นถึงความเย้ายวนนั้นเพียงไหน เห็นแล้วมันก็อยากสมสู่ให้ไวเท่าที่จะทำได้
รอไม่ไหวแล้ว
“ยังก่อน เคลวินน์”
แวนกัสถอดกางเกงของตัวเองเรียกร้องความสนใจ คว้าเกาะมือใหญ่ของอีกฝ่าย ที่กำลังจะถอดของตัวเองเช่นเดียวกันราวกับรีบเร่งนักให้อย่าเพิ่ง เจ้ายักษ์คว้าดึงให้คนตัวน้อยกว่ากระเถิบเข้าใกล้ ประทับตราของตัวเองด้วยการครูดเขี้ยวตามเรือนร่างของแวนกัสเสียเป็นทางยาว “อื้ออออออ!”
รู้สึกดีเป็นบ้า!
คนนอนตัวแอ่นเพราะความรู้สึกหวามไหว เขี้ยวของเคลวินน์คม แต่ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บขนาดทนไม่ไหว ความรู้สึกราวไฟฟ้าแล่นปราดตามการกระทำของยักษ์ด้านบนนั้นน่าพิศวงนัก จนคนรอเกิดความวาดหวังว่าจะได้มากกว่านั้น
เนื้อบั้นท้ายแน่นหนั่นของเขาถูกงับกัดเสียจนชายหนุ่มสะดุ้ง อดไม่ได้ที่จะยกสะโพกสู้คืนบ้าง เจ้ายักษ์ร้ายสนองแวนกัสด้วยริมฝีปากหนุบหนับลากไล้ชิมไปทั่วทั้งตัว
ด้านนอกฝนตกราวกับพายุเข้า แสงของฟ้าแลบสาดเข้ามาให้เห็นร่างของมนุษย์น้อยชัดกว่าเก่าใสสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย นอนนิ่งให้เจ้ายักษ์ลามกทำตามความต้องการ
มือของมันสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าจะเริ่มทำหรือจับส่วนไหนดี ไม่ว่าจะใบหน้าที่กำลังมีความสุขเชิดขึ้น หรือส่วนหน้าอกที่กำลังกระเพื่อมไหวรุนแรง หรือส่วนกลางที่กำลังชูชันบอกมันว่าความรู้สึกยามนี้ไม่ต่างกัน
“มองอยู่ได้ จะทำอะไรก็ทำสิ” คนด้านใต้ยกยิ้มหวาน
“ข้าอยากจะชิมร่างกายเจ้า มากกว่านี้” เคลวินน์บอก ลมหายใจของมันเริ่มติดขัดขึ้นมายามลากไล้มือที่เคยฝันถึงสำรวจไปตามร่องที่มันอยากจะทำ เสียงของแวนกัสไม่ต่างกัน มันเห็นอีกฝ่ายกำลังขวยเขิน เอียงหน้าหลบยามมันจับยกขาน้อยอ้าออก ขยับซุกหน้าใกล้จุดสีชมพูเข้าไปทุกที ไม่นานที่ลิ้นแตะ ตัวของมนุษย์ก็สะดุ้งโหยง “อือ...”
“เจ้าพอใจ”
“อะ..อืม”
ทำเป็นกร้านโลกไปก็เท่านั้นเอง แวนกัสอายจนจะบ้า เป็นครั้งแรกที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายนอนให้อีกฝ่ายกระทำ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังว่าจะรู้สึกดีมากมายนัก แต่ที่น่าแปลกคือมันดีกว่าที่เขาคิด ยามที่ลิ้นอุ่นของยักษ์กำลังผ่อนคลายเขา มันดีจนแวนกัสตัวกระตุกอยู่หลายครั้ง
เสียงฟ้าร้อง เสียงลมที่โหมพัดราวกับรู้ว่าอารมณ์ของมนุษย์ตอนนี้ก็ไม่ต่างกัน มือขาวกำที่กองฟางแนบแน่น หลับตาปี๋เพระความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจนตัวบิดงอ ก็ไหนบอกเขาว่าทำไม่เก่ง ยังไม่พร้อม แล้วนี่อะไรกัน เพียงแค่ลิ้นก็ทำเอาแวนกัสปั่นป่วนจนจะถึงฝั่งฝันอยู่รอมร่อ “ฮึก พอ พอแล้ว...”
เคลวินน์ผละมาช้อนสบตา “เจ้าไม่ชอบ”
“ชอบ ชอบมาก” แวนกัสกลืนน้ำลาย ดึงเจ้าตัวใหญ่มากอดจูบกัน “แต่ฉันอยากเสร็จพร้อมนายมากกว่า”
เคลวินน์ฝังจมูกดอมดมซึมซาบอารมณ์แสนหวามไหวของมนุษย์ด้วยกลิ่นหอม มันครางฮึ่มฮั่มยามแวนกัสเอื้อมมือซุกซนไปแตะที่เขาโก่งงอ ตั้งใจจะปั่นป่วนให้มันทานทนความอยากไม่ไหว ท้ายที่สุดมนุษย์ก็ร้ายกาจ ดึงให้เคลวินน์โน้มหัวลงไปใกล้ แล้วยั่วยวนมันด้วยการอมที่ปลายเขาจนสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของช่องปาก
“อือ...”
ยักษ์สิ้นท่าให้มนุษย์แล้ว เมื่อมือน้อยทั้งลูบและลิ้นก็ยังคงลามเลียให้ ลมหายใจของยักษ์ฟืดฟาด ความอดทนที่อยากจะทนุถนอมร่างของอีกฝ่ายขาดผึงอย่างไม่อาจต่อติด มันส่งเสียงคำรามต่ำพร่า กำฟางในมือแน่นจนสั่น เอียงคอรับความรู้สึกซ่านเสียวที่ถูกปั้นจนเป็นแก่นก้อนเหยียดอยู่กลางตัวจนเบียดเสียดหน้าท้องอีกฝ่าย
แวนกัสผละมาช้อนตามองในความมืด แสงจากฟ้าแลบสาดมาให้ชายหนุ่มเห็นสีหน้าของเจ้ายักษ์ที่ถูกเขาเล้าโลมด้วยลิ้น เต็มไปด้วยความพอใจและไม่พอแค่การถูกกระทำเพียงนั้น นัยน์ตาสีแดงของมันมองเขาราวเป็นเนื้อชิ้นโปรด นั่นแหละที่ทำให้แวนกัสพอใจ
ฝ่ามือต่างขนาดขยับประสานกันแนบแน่น ไม่นานแวนกัสก็เกิดสนใจลอนกล้ามเนื้อใหญ่ที่หน้าท้องของอีกฝ่ายมากกว่า มือเล็กลูบของตรงหน้าอย่างไม่เชื่อว่านี่คือความจริง แต่ยามเห็นความสว่างของฟ้าที่จู่ ๆ สว่างขึ้นก็บอกเขาได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้ฝัน เขามีความรักกับเจ้ายักษ์ในคราบเทพบุตรตรงหน้า
เขาไม่ได้หลงรักเพราะความความงดงามที่ชายหนุ่มกำลังเห็นอยู่ตอนนี้ เขาเพียงแค่ยอมแพ้ให้กับความพยายามของอีกฝ่าย และความสม่ำเสมอที่เคลวินน์มอบให้ต่างหาก ใบหน้ารูปหล่อที่กำลังยกยิ้มให้ตรงนี้ก็เป็นเพียงผลพลอยได้ที่เขาไม่ได้คาดคิด ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งหลงใหลเคลวินน์จนเกิดรู้สึกหวงขึ้นมา ทั้งที่ไม่มีใครได้โอกาสเจออีกฝ่ายแท้ ๆ
“รักฉันมั้ย” ชายหนุ่มถามขึ้น ถูไถซุกไซ้หัวตัวเองกับอกของอีกฝ่ายอู้อี้ เจ้ายักษ์ร้ายพ่นลมหายใจเพราะต้านทานความน่าเอ็นดูของมนุษย์ไม่ไหว มันพยักหน้าลงแล้วดมหอมหัวอันพยายามถูไถเรียกร้องความสนใจ
“รัก รักที่สุด รักกว่าชีวิตของข้า”
คนฟังรู้สึกได้อย่างที่พูด พริ้มหลับตาไม่สนใจเจ้าท่อนไม้ใหญ่ของอีกฝ่าย ที่ถูกดึงออกมาให้เห็นเป็นลำ ความหวามไหวแตะอยู่ที่ปลายทางจนแปรเปลี่ยนมาร้อน บดเบียดเข้าทีละเล็กน้อย แวนกัสเม้มปากพยายามที่จะไม่ร้องทั้งที่เจ็บเจียนจะบ้า ทว่าเขาไม่อยากจบคืนนี้เพียงเพราะความปอดแหกของตัวเองอีกครั้ง
“เคลวินน์...”
เจ้ายักษ์ด้านบนกอดชายหนุ่มแนบแน่น
“ข้ารักเจ้า” กระเสือกกระสนขยับเข้า
“เคลวินน์!
“อย่าห้ามข้า...”
“อึก..หยุดก่อน” เสียงลมหายใจทั้งคู่หนักกว่าพายุลมด้านนอกเสียอีก แวนกัสจิกเท้าตัวเองทั้งสองข้าง อารมณ์พุ่งทะยานราวกับดื่มเหล้ามึนเมาจนเห็นภาพซ้อน เห็นเคลวินน์ยอมหยุดแม้ว่าทุกอย่างเหมือนจะกู่ไม่กลับแล้ว ชายหนุ่มบ้วนน้ำลายใส่มือตัวเอง ถูทาที่บริเวณถูกรุกล้ำให้ฉ่ำผ่านง่าย บอกวิธีให้เจ้ายักษ์ตรงหน้ารู้ว่าควรทำอย่างไรที่เขาจะไม่ทรมาน
ไม่นาน ปากทางรักของเขาก็เปียกแฉะด้วยน้ำลายของเคลวินน์ แม้จะสามารถชำแรกผ่านเข้ามาแล้วอย่างง่ายดายกว่าครั้งก่อน แต่แวนกัสรู้สึกเหมือนตนเองขาดเป็นเสี่ยง ผิดกันกับเจ้ายักษ์ด้านบนที่ลมหายใจต่ำทุ้มพร่า คำรามใส่เขาอย่างไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว
เสียงสวบสาบของกองฟางสะท้อนโสตประสาทคนด้านใต้ แต่ในหูชายหนุ่มกลับอื้ออึงไปด้วยเสียงครวญครางของตัวเองประสานกับเจ้ายักษ์ใหญ่ข้างบน จะทำอย่างไรดี แวนกัสรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ รำลึกได้ว่าตัวเองเล็กกว่าอีกฝ่ายเกินที่ธรรมชาติของร่างกายจะยอมรับ แต่เหตุใดเล่าเขาถึงกลับรู้สึกดี ยามตัวใหญ่บดเบียดเสียดสีทั้งหมดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า
บางทีธรรมชาติก็ไม่มีเหตุผล
“อื้อ อื้อ!” ได้โปรด ทำมากกว่านี้อีก
เพราะขนาดตัวที่เล็กกว่าทำให้อยู่ในท่านอนหงายไม่สะดวกนัก แวนกัสตกใจที่จู่ ๆ ถูกจับให้ขยับนอนคว่ำ เคลวินน์จัดท่าทางของเขาราวกับเห็นเป็นตุ๊กตา ไม่พูดให้มากความ สัญชาตญาณดิบเถื่อนของชายหนุ่มเองก็บอกให้ยินยอมพร้อมใจ กระเถิบถอยเข้าหาในท่าโก่งโค้งราวกับสัตว์ รีรอที่จะรับความรักของอีกฝ่ายเข้ามาอีกครั้งอย่างลืมอาย
ไร้บทพูดอันใดนอกจากปลดปล่อยซุ่มเสียงระบายความใคร่ แสดงออกต่ออีกฝ่ายด้วยการกระทำ
ตัวของเคลวินน์ใหญ่กว่าแวนกัสสองเท่า ขนาดของร่างกายเขาอาจทำให้มันคับแน่นจวนจะบ้าแล้วก็เป็นได้ แม้กระทั่งแวนกัสเองก็รู้สึกดีจนจะเป็นลมแล้ว ชายหนุ่มหลับตาปี๋ รู้แค่ว่าตัวเสียดสีกับกองฟางผสมกับเหงื่อที่รินไหลทำเอาเข่ารู้สึกแสบ ชะโงกมองไปด้านหลังเห็นสารหล่อลื่นของทั้งตัวเองและอีกฝ่ายไหลอาบขาเสียเหนอะหนะ มีแม้กระทั่งเศษใบไม้เล็ก ๆ เกาะจนดูสกปรก
น่าอายชะมัด แวนกัสเม้มปากแน่นพยายามที่จะไม่ส่งเสียง เพราะรู้สึกว่าตัวเองร้องเสียจนรู้สึกเจ็บคอ ยักษ์ด้านหลังทรหดกว่าที่เขาคิด แรงกระทั้นครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาชายหนุ่มไถล หากไม่มีมือใหญ่ที่คอยรั้งเอาไว้ ตัวของชายหนุ่มคงหักไปเป็นสองท่อนแล้วเป็นแน่
“เคลวินน์ นะ..นาย...เฮือก!
เจ้ายักษ์ร้ายจับตัวเขาให้ลอยขึ้นเหนือพื้น ราวกับรู้ว่าหากชายหนุ่มอยู่ท่าเดิมนาน ๆ เข้าจะเมื่อย ยกชายหนุ่มจากด้านหลังให้ห้อยขาต่องแต่งบนกาศ สอดแขนใต้รักแร้กอดเขา แวนกัสร้องผวา สัมผัสได้ถึงความใหญ่และลึกที่ปูดนูนบริเวณท้องน้อยของตัวเองจนตัวเกร็งสั่น
“ฮึก ไม่เอา..ไม่เอาท่านี้ไอ้บ้า”
มันงับที่คอของชายหนุ่ม ราวกับเจ้ายักษ์หูดับไปแล้ว ไม่ได้สนใจคำต่อว่าของแวนกัสนัก สมองของมันคงสั่งการให้ทำตามความต้องการอย่างที่ชายหนุ่มเคยบอกจริง ๆ “เคลวินน์ อ๊ะ...มันแน่น!” แวนกัสพยายามที่จะสะบัดหน้าไล่ความรู้สึกของตัวเองออกไป 
“แฟนเกิซ ข้า...” เจ้ายักษ์พ่นลืมฟืดฟาด “ข้า...”
“ยะ..อย่า!
“มนุษย์ตัวน้อย ข้าอยาก เติมเต็มในตัวเจ้า”
หัวใจคนฟังเต้นรัวกว่าเก่า “อย่านะ เคลวิ...”
“โอบกอดเหล่าลูกของข้า ด้วยกายเจ้า”
“ฮึก!
แวนกัสอ้าปากค้างเพราะความสุขที่แล่นพล่านปราดไปทั่วอณูร่างกาย แรงขยับของเอวสอบถี่ระรัวราวหนูติดจั่นไม่สนว่าเขาจะแหลกคามือ ความคับแน่นในกายที่มีเพิ่มพูนและรุมร้อนกว่าเก่าจนแยกไม่ออกว่าตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกอย่างไรแน่ แต่ตัวเองก็ถึงฝั่งไปพร้อมกันกับเคลวินน์ด้านหลัง ขณะที่ตัวยังคงลอยเพราะแรงยกมหาศาลของเจ้ายักษ์เอาแต่ใจ
จะตายแล้ว เขาจะตายแล้ว ไอ้ยักษ์เอาแต่ใจทำเอาเกือบตายแล้ว
แต่ต่อให้เอาแต่ใจยิ่งกว่านี้ แวนกัสก็ยังคงชอบ ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อท้ายที่สุดสิ่งที่คับแน่นเสียดสีในท้องก็ยอมขยับออก แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มแตะปลายเท้ายืนกับพื้น วินาทีที่เท้าเหยียบฟางลงได้ แวนกัสไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้ชายอ่อนแอถึงขนาดยืนด้วยลำแข็งตนเองมิไหว จนกระทั่งวันนี้
“อึก!
ขาเขาทรุดจนล้มลงนั่งไปเสียอัตโนมัติ ความร้อนที่ถูกเติมเต็มในกายทะลักออกมาราวน้ำป่าที่กำลังไหลในหน้าฝน ลำขาขาวเฉอะแฉะเต็มไปด้วยสารคัดหลั่งของยักษ์ มากมายเสียจนแวนกัสตกใจว่ามันเข้าไปอยู่ในท้องของตัวเองได้อย่างไร
แล้วชายหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองที่ได้เห็นแล้ว เหตุใดถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนสาวที่เพิ่งเสียบริสุทธิ์ด้วย




ความคิดเห็น