ดอกไม้ป่าที่ริมหน้าต่าง ตอนที่ ๒๑ NC


ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ



เสื้อที่ถูกเลิกขึ้นหยาบ ๆ ของแวนกัสหลุดไปกองอยู่แถวนี้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นนัก ยามลิ้นสากอุ่นร้อนลากชิม ดูดดุนหัวนมราวกับเป็นหนึ่งในลูกน้อยแรกเกิดเสียดังจุบจับ สร้างอารมณ์ปั่นป่วนในท้องให้แวนกัสจนสะดุ้งโหยงอยู่หลายครา ยามถูกกระทำ ท้องฟ้าพราวระยับเป็นมุมมองที่ดีกว่าที่แวนกัสคิดนัก ราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์
“กายเจ้าบอบบางกว่าเดิมนัก แค่ข้าชิมเจ้าก็ช้ำเสียแล้ว” เจ้ายักษ์ผละเงยจากยอดยกที่ชูชันทั้งออกข้างมาสบตา สร้างความกระดากอายแก่ชายหนุ่มจนต้องเอียงหน้าหลบ หากทว่าเจ้ายักษ์หาได้ยอมไม่ มันก้มลงงับกัดและดึงจนหน้าอกหน้าใจชายหนุ่มยืดติดปากไป
“ฮื่อ ไอ้ยักษ์บ้า มันเจ็บนะ!
“มันเขี้ยว”
คำตอบของเคลวินน์ทำเอาแวนกัสพูดไม่ออก ได้แค่ตีอีกฝ่ายเอาคืนบ้างด้วยมืออ่อนแรงนั้น ทั้งที่เมื่อครู่ตกใจและเจ็บ ร่างกายของแวนกัสกลับสนองกลับไปเป็นตรงกันข้าม ชายหนุ่มถูกพยุงให้ลุกนั่ง ได้เห็นยอดอกของตัวเองตั้งและแดงกว่าปกติ ร่างกายนี่ไม่ใช่ของแวนกัสแน่แล้ว ไม่ใช่!
“เจ้าเขินอายอะไร” มือใหญ่ลากไล้แก้มแดง
“ร่างกายของฉันมันแปลก มันยั่วนายเองโดยที่ฉันไม่ได้ออกคำสั่ง”
ผู้ฟังยกยิ้มหวาน “ร่างกายเจ้าเป็นไปตามสัญชาติญาณ ก้นบึ้งในจิตใจเจ้าต้องการข้า”
“ถ้าเข้าใจอย่างนั้นแล้วทำไมไม่ทำอะไรฉันสักทีเล่า” เมียมนุษย์น้อยของเคลวินน์ส่งเสียงงอแงใหญ่แล้ว มันยกร่างบอบบางอ้อนแอ้นมายืนอยู่ตรงหน้า บนตัวแวนกัสสวมเพียงแค่ส่วนล่างเท่านั้น และด้านบนก็เชื้อเชิญให้มันเทียวไปชิมอยู่บ่อยครั้ง ก่อนก็ลงไปกลางลำตัวบริเวณที่แวนกัสเองก็รอคอยให้อีกฝ่ายสัมผัส เคลวินน์ชิมเขาผ่านเนื้อผ้า สูดดมกลิ่นกายเดิมที่มันคุ้นชินอยู่เช่นนั้น
อารมณ์ของยักษ์ถูกปั้นขึ้นเป็นก้อนได้ง่ายดายก็เพียงแค่สูดกลิ่นกายของแวนกัสแล้ว ชายหนุ่มตัวโยนเยน ขณะที่ยืนนิ่งให้เจ้ายักษ์ตัวใหญ่ชิมกายให้ถ้วนถั่วอย่างที่มันต้องการ แม้นชายหนุ่มจะใจร้อนอยากจะข้ามขั้นตอนถึงเพียงไหนก็ตาม
เคลวินน์ยังคงเก่งเรื่องการจัดแจงท่าทางให้แวนกัส มารู้ตัวอีกทีเขาก็ไม่ต่างจากสัตว์แถวนี้เสียแล้ว หัวใจชายหนุ่มเต้นตึกเมื่อบนกายไม่มีอาภรณ์ใดใด รวมถึงอยู่ในท่าคุกเข่าคลานเป็นเดรัจฉานตัวหนึ่ง ให้นิ้วมือของเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ชำแรกผ่านเข้ามาทีละเล็กน้อย ผ่านความเจ็บจนดำเนินความถึงความรู้สึกอื่นที่ลึกล้ำกว่านั้นหลายเท่า
เสียงลมหายใจของเคลวินน์รุนแรงกว่าเดิมนัก ยามเห็นแวนกัสครวญร้องเพียงเพราะนิ้วมือของมันที่เคลื่อนขยับ เขาไม่รู้เป็นเพราะอะไร เคลวินน์ไม่ได้ใช้น้ำลายให้มันเฉอะแฉะถึงเพียงนี้ แต่น้ำหล่อลื่นพวกนี้มันเกิดจากอารมณ์ซ่านเสียวของแวนกัสจนไหลออกมาอาบขามากมาย สรุปแล้วแวนกัสกลายเป็นตัวเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์กับมันอย่างเต็มขั้นแล้วอย่างนั้นหรือ
ดอกไม้บนหูร่วงหล่นไปที่ใดแวนกัสไม่อาจทราบได้แล้ว ชายหนุ่มพริ้มตา คิ้วเรียวมุ่นขมวดราวมีเรื่องใดหนักใจมากมายให้คิดไตร่ตรอง แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ก็แค่ความรู้สึกดีจนไม่อาจเก็บงำได้กำลังลอดผ่านเข้ามาในกายจนตัวสั่น เคลวินน์ไม่ยอมปล่อยให้หายใจหายคอได้ทัน ทันทีที่ชายหนุ่มโอบอุ้มอีกฝ่ายด้วยช่องทางเล็กจนหมด เจ้ายักษ์ก็เปลี่ยนเป็นสัตว์ป่า คำรามดังด้วยความต้องการปลดปล่อยความดิบเถื่อน
เคลวินน์ว่องไวเหมือนเมื่อสิบหกปีก่อน เสียงเฉอะแฉน่าอายดังไม่หยุด แวนกัสสะบัดหน้าครวญร้องออกไปอย่างไม่อาจทานทนไปกับความร้อนที่กำลังเสียดสีอยู่ในช่องท้อง จากที่เคยคิดว่าเคลวินน์ตัวใหญ่และพละกำลังมหาศาลอยู่แล้ว เมื่ออยู่ในร่างนี้เขายิ่งรู้สึกไปมากกว่าเดิม เจ้ายักษ์ที่โอบรัดชายหนุ่มอยู่ด้านหลังเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
มันคงคับแน่นจนอยู่ไม่สุข จนต้องรีบหาหนทางพาทั้งคู่ไปสู่จุดหมายให้ได้
“อึก ดะ..เดี๋ยว” แวนกัสกำจิกมือใหญ่ ตัวสะเทิ้นแทบจะตกลงไปจากหน้าผา เข่าถลอกแดงเปลี่ยนร่างซีดให้ดูมีเลือดฝาดขึ้นไปทั้งตัว ชายหนุ่มถูกเจ้ายักษ์ใหญ่พิศมอง เคลวินน์ไม่พูดไม่จา ส่งเสียงฮึ่มฮั่มพอใจราวกับกำลังตั้งใจดูว่าเมียของมันเย้ายวนน่าจับสมสู่เพียงไหน
“เจ้าสุขสมรึไม่เมียข้า” ยักษ์ร้ายลากลิ้นเลียแผ่นหลังแวนกัส แล้วโน้มลงกระซาบผ่านเสียงลมรึไม่ก็สัตว์ป่าแถวนี้ แวนกัสจิกเท้า แม้ในยามพูดคุย เจ้ายักษ์ตัวใหญ่ไม่ยอมลดทอนกำลังลงเลยแม้แต่น้อย
“นายจะฆ่าฉันรึไง ช้าลงหน่อย...”
เขี้ยวแหลมงับที่หลังคอ “ข้าไม่อาจทำได้ เจ้ายั่วยวน แล้วมันก็แน่นเสียร่างกายข้าเป็นไปเอง”
“ขี้โกง”
“เหตุใดถึงว่าข้าเช่นนั้น เจ้าตัวเล็กนิดเดียว แต่คอยยั่วอยู่ทุกวันจนข้าเก็บกด..”
“เคลวินน์ บอกว่าให้ช้า ๆ หน่อย ตัวฉันจะ...” แวนกัสเกร็งไปเสียทุกส่วนแล้ว ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก ความรู้สึกถาโถมเข้าร่างไม่หยุดหย่อน ก้มลงมองที่ขาอ่อนของตัวเองเห็นแต่ของเหลวไหลอาบจนมีขนของอีกฝ่ายเกาะอยู่ ชายหนุ่มสะบัดหน้ารู้สึกแทบบ้าเต็มทีแล้ว แล้วเจ้ายักษ์ด้านหลังก็นำพาให้แวนกัสไต่ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดครั้งแรกอย่างเร็วไวไม่คาดคิดได้เลย
“อึก!
แวนกัสหอบตัวโยน มองที่ตัวเองสาดของเหลวลงพื้นหญ้ามากมายทั้งที่รู้ว่าแถวนี้อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว มือแวนกัสจิกที่พื้นจนเปรอะเปื้อนดินอย่างลืมตัว หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะตายอยู่รอมร่อ แต่ขณะที่กำลังพักหายใจ เขาก็ถูกจับยกให้หันไปหาต้นไม้ใหญ่แถวนั้น “เดี๋ยว! ขอฉันหายใจก่อน อื้อ...”
“ข้าไม่อาจรอได้”
“เคลวินน์ นายอย่าใจร้ายกับฉันนัก”
ผู้ที่อยู่ด้านหลังกอดแวนกัสแน่น “เมียข้า ข้าไม่เคยใจร้ายกับเจ้าสักครั้ง”
“ก็นาย...อ๊า” แวนกัสกลัวหกขะล้มหัวทิ่มเหลือเกิน ยามตัวโยนเยนเพราะชายหนุ่มขาอ่อนขาเปลี้ยด้วยความคับแน่นในท้อง เคลวินน์ยังคงไม่สำเร็จความใคร่ของตัวเองและไม่อาจทราบว่าจะพอใจเมื่อไร ชายหนุ่มคิดว่าคราวนี้ตัวเองน่าจะเพลาไอ้นิสัยยั่วอีกฝ่ายเสียบ้าง เจ้ายักษ์ที่กำลังอยู่ด้านหลังจะได้ไม่ต้องเก็บกดทำกับเขาเช่นนี้
เคลวินน์เป็นยักษ์ แน่นอนว่าร่างกายของอีกฝ่ายอึดกว่ามนุษย์นัก และนั่นเป็นสิ่งที่แวนกัสชอบด้วย แต่คราวนี้ร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว และอาจเป็นเพราะนี่คือครั้งแรกของชายหนุ่ม มันเจ็บเสียดในท้องและสุขสมปะปนกันไป รู้ตัวอีกที ตัวที่โยนเยนเกาะต้นไม้ของแวนกัสก็ถูกงับกัดบ่า สารแห่งความสุขหลั่งไหลเข้ามาในตัวเสียร้อนรุมคับแน่นไปหมด
“อื้อ อย่า..” เจ้ายักษ์ร้ายอ้อยอิ่งกับชายหนุ่ม กกกอดไม่ยอมถดถอยออกจากตัว ท้องของเขายามนี้ปูดนูนราวกับได้ทานอาหารมื้อโปรดมาอย่างเต็มอิ่มแล้ว และเจ้ายักษ์ตัวใหญ่ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังพออกพอใจเอาเสียมากที่เห็นพุ่งเขาป่องเช่นนี้ มันลูบไล้ ฝังจูบแวนกัสอย่างไม่อาจผละออกจากกันแต่โดยง่าย อาวรณ์เรือนร่างของชายหนุ่มอยู่เช่นนั้นอยู่ครู่ใหญ่

ความคิดเห็น