ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ
วิริยะรู้สึกเหมือนจะจมน้ำ
เอื้อมกอดคอคนตัวใหญ่กว่าแล้วส่ายหน้า ทว่าเชษฐ์ไชยไม่เห็นใจเขาเลย
โน้มลงมาแนบจูบแบบดูดดื่ม ฟอนเฟ้นด้วยริมฝีปากจนเกิดเสียงน่าอาย
แล้วเลยมาที่ติ่งหู กกกอดวิริยะไม่ยอมให้ถอยห่างออกจากร่างที่บดเบียดกัน
อยากจะขัดขืน อยากจะบอกให้หยุด แต่ติดตรงที่ริมฝีปากที่ถูกจองจำอยู่ตลอดไม่มีโอกาสได้พูดสักที
มือใหญ่เคลื่อนสัมผัสตัววิริยะใต้กางเกง
เด็กหนุ่มสะดุ้ง “อื้อ...”
เสียงครวญอันหวานหู
ยิ่งไปกระตุ้นความอยากคนทำอีกเท่าตัว
“ไหน เมื่อวานใครทิ้งให้อารมณ์ค้างกัน
หืม...”
วิริยะส่ายหน้าด้วยความอับอาย ใครจะไปรู้กันเล่า
เชษฐ์ไชยลากลิ้นเลียลำคออย่างย่ามใจ
ไม่สนว่าบนเนื้อกายวิริยะเปื้อนน้ำในสระหรือไม่
ฝังริมฝีปากลงบนผิวเนื้อของเด็กหนุ่มราวกับต้องการตีตราจอง
ให้ใครต่อใครรู้ว่าวิริยะเป็นของเจ้าตัว สิ่งที่เด็กหนุ่มทำได้คือส่งเสียงปรามเบา
ๆ เท่านั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเชษฐ์ไชยจะลามกกล้าทำอะไรอย่างนี้กับเขาในที่ไม่ลับสายตา
หน้าไม่อายเสียจริง
“พอเถอะนะอาเชษฐ์” เด็กหนุ่มกระซิบเสียงเบา
ในขณะที่ริมฝีปากหยักของเชษฐ์ไชยยังคงคลอเคลียอยู่ชิดใกล้ ไม่เอ่ยอะไรในเวลานี้
นอกจากแนบจูบซ้ำแทนการตอบคำถาม มือไม้ข้างหนึ่งก็ลูบสำรวจจนทั่ว วิริยะกลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะไม่ฟังความแล้วเอาแต่ใจทำไปจนถึงขั้นสุดท้าย
ตรงนี้
เชษ์ไชยทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ
ดึงมือวิริยะให้เอื้อมมาแตะของชายหนุ่มบ้าง
นัยหนึ่งคงต้องการบอกว่ามันแข็งและขยายใหญ่ถึงเพียงนี้แล้ว
วิริยะยังจะใจร้ายให้หยุดกลางคันอีกหรือ
คนตรงหน้าใช้เสียงพอใจ
สูดลมหายใจลึกขึ้นกว่าเก่ามือจับมือวิริยะนำพาความสุขให้ตัวเองไปพลาง
ดุนดันตัววิริยะพิงที่ดินตลิ่งชันไปพลาง อีกข้างก็มอบความสุขให้เด็กหนุ่มบ้าง
วิริยะเม้มปากแน่น
เก็บกักเสียงเพราะกำลังจะถึงงฝั่งฝันในไม่ช้า
“อาเชษฐ์ ฮือ...” เด็กหนุ่มร้อง
ความหอมหวานของรสกามในมือของเชษฐ์ไชยทำให้แทบบ้า ภายในสมองมึนเบลอไปชั่วขณะหนึ่ง
รู้เพียงว่าเขาทำทุกทางที่จะให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด
โดยไม่คิดเลยว่าการขยับเอวตอบสนองอย่างนี้มันจะน่าอายขนาดไหน
“...ผมจะ ผมจะ...” วิริยะตัวสะบั้น
กระตุกกึกอยู่สองสามที ครวญหงุงหงิงราวลูกแมวกำลังออดอ้อน
ซุกกอดพ่นลมหายใจฟืดฟาดอยู่ในอกกว้าง ขณะที่คนตัวใหญ่ยังคงสนใจลากลิ้นเลียที่ต้นคอ
ไหล่ที่โผล่พ่นเสื้อยืด ดูดเฟ้นเร่งเร้าอารมณ์ให้จนวินาทีสุดท้าย
ช่วงวินาทีความสุขกำลังครอบงำเด็กหนุ่ม
วิริยะกลืนน้ำลายแก้คอแห้งผากของตัวเองหลังได้สติ แหงนมองคนตรงหน้ากำลังพริ้มตาหลับ
ง่วนอยู่กับการใช้มือวิริยะบำเรอให้ เห็นแล้วใจวิริยะเต้น
แล้วรู้สึกถึงความขัดเขินเมื่ออีกฝ่ายลืมตา
เห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังจับจ้องอยู่ก็ไม่รู้จักอาย ขยับเข้ากอดวิริยะ
กระซาบกระซิบเสียงแผ่ว “วันนี้พี่ขอเถอะนะ”
ตรงนี้น่ะหรือ!
หน้าเด็กหนุ่มร้อนฉ่า
ส่ายหัวระรัวบอกว่าไม่พร้อม ซึ่งดูเหมือนเชษฐ์ไชยจะไม่สนใจเลย
วิริยะถูกกระหน่ำจูบ
มือใหญ่ที่กุมจับก็ผละออก
มาบีบขยำเนื้อบั้นท้ายด้านหลังของวิริยะราวกำลังมันเขี้ยว ไม่รู้อะไรเป็นอะไร
ใจเต้นตึก ร่างกายปั่นป่วนแล้วแข็งขึงตอบอีกรอบ โดยที่วิริยะบังคับตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่นิด
นิ้วหัวแม่มือใหญ่ของเชษฐ์ไชย
เขี่ยสำรวจราวต้องการรู้ว่ารูปร่างด้านใต้ของวิริยะเป็นอย่างไร
เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อโดนจุดอ่อนไหว จนหลุดปล่อยเสียงครางออกไปให้คนตัวใหญ่ได้ยิน
ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดถึงได้เป็นคนทะลึ่งได้ขนาดนี้ เอาเสียวิริยะเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
หากห้ามปรามเชษฐ์ไชยไม่ได้คงต้องเป็นเหมือนคืนนั้น
รุนแรง และป่าเถื่อน
“ผมมะ...ไม่พร้อมนะอาเชษฐ์” เด็กหนุ่มโอดเสียงสั่น
มองคนตัวใหญ่กำลังสาละวนกับการนำพาตัวเองและวิริยะไปให้ถึงฝั่งฝัน
จนน้ำในสระด้านบนกระเซ็นเปื้อนไปทั่วหน้าทั้งสอง กระทั่งทนไม่ไหว
มือใหญ่ร่นกางเกงวิริยะลงแล้วจับตัวเด็กหนุ่มหันหลังให้
เมื่อถูกทำเช่นนี้วิริยะร้องปราม “ไม่ ไม่เอา...”
วิริยะกำลังกลัวเขา
เชษฐ์ไชยส่ายหน้า
พยายามอย่างสุดชีวิตที่จะระงับความอยากของตัวเอง
ในขณะที่มือกำลังง่วนอยู่กับการสอดแทรกลองเชิงดูก่อนว่าได้หรือไม่
แต่ครั้นได้ยินเสียงของวิริยะ
ชายหนุ่มก็นึกขึ้นมาว่าไม่ควรให้ความหน้ามืดตามัวทำร้ายคนตรงหน้า
ชายหนุ่มจูบแก้มเด็กที่กำลังกลัวอ่อนแผ่ว แล้วกระซิบเสียงเว้าวอนว่า
“วิว หนีบขาเร็วเข้า”
ได้ยินที่เชษฐ์ไชยบอก
เด็กหนุ่มรู้สึกอาย แต่วางใจว่าจะไม่ถูกบังคับแล้ว
วิริยะพยักหน้าเล็กน้อย
ก้มลงเพราะไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร
จำต้องทำตามความต้องการของตัวเองและคนข้างหลังให้มันผ่านไป
ความร้อนจากของแข็งขึงสอดแทรกมาเบียดต้นขาเด็กหนุ่ม
เสียดสีกับลูกชายทั้งสองของวิริยะจนรู้สึกสยิวมากขึ้นไปอีก วิริยะตัวกระตุก
ยามคนด้านหลังขยับตัวให้ร่างกายของทั้งสองอยู่ใกล้กัน
ดีหน่อยที่เชษฐ์ไชยไม่เห็นบริเวณที่อยู่ใต้น้ำชัดนัก
“วิว...” เสียงทุ้มกระเส่าพร่า
ขานชื่อเด็กหนุ่มราวต้องการเน้นย้ำว่าไม่ผิดตัวแน่
วิริยะกลืนน้ำลาย รู้สึกตัวรุมร้อน
ยามหน้าอกของเชษฐ์ไชยบดเบียดอยู่ข้างหลัง แผ่นน้ำกระซอนกระเซ็นไปทั่วยามมือยาวเคลื่อนมาช่วยวิริยะด้านหน้า
อีกข้างก็โอบกอดไม่ยอมให้สะเทิ้นไหวหนีไปไหน
นานเท่าไรไม่รู้
แต่ดูเหมือนเชษฐ์ไชยอยากจะแกล้งวิริยะ ไม่ยอมเสร็จเสียที
จะถึงที่หมายเมื่อไรก็ลดทอนกำลังลงแล้วขยับเชื่องช้ากว่าเก่า
หรือไม่ก็กำลังเพลิดเพลินและอยากยื้อเวลาให้นานที่สุด แต่วิริยะน่ะซี
อายจนจะบ้าอยู่แล้ว
“อย่าทำแบบนี้...” วิริยะทุบหน้าอกเชษฐ์ไชยปึก
ๆ
คนด้านหลังงับหูวิริยะเบา ๆ “แบบไหน หืม...”
คนโดนแกล้งส่ายหน้าไม่ไหว
ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น รู้สึกดียามลมร้อนรดอยู่ข้างแก้มและใบหูจนขนลุก
แล้วหันเบี่ยงใบหน้าไปตามแรงของเชษฐ์ไชย
ให้ร่างใหญ่โน้มลงมาแนบริมฝีปากจูบกันอยู่เช่นนั้น
เพราะรู้ตัวกันอย่างดีว่าความหอมหวานของรสกามกำลังเดินทางมาถึงจุดหมายในไม่ช้า
“อื้อ...อา...อาเช...” เสียงวิริยะขาดหาย ร่างกายกระตุกวูบในขณะที่ถูกปิดปากจูบ
เดาว่าคงเสร็จไปอีกรอบแล้ว
หากเชษฐ์ไชยปล่อยให้ริมฝีปากบางนุ่มนิ่มว่าง
เจ้าตัวคงร้องเสียงหลงเรียกคนทั้งไร่มาดูแล้ว
ชายหนุ่มผละออกเมื่อท่าทีของเด็กในอ้อมกอดอ่อนลง แล้ววางหน้าซบที่ซอกคอหอม สูดดม
พรมจูบไปจนทั่ว “คราวหน้าพี่ไม่ปล่อยวิวแน่
พี่จะ...จะเสร็จในตัวเธอ...”
ถ้อยคำหยาบโลนที่พูดนั้น
กระตุ้นความกระสันของเชษฐ์ไชยจนอดทนไม่ไหว กระทั้นเอวบดเบียดแนบแน่น
ปลดปล่อยความสุขออกมาจนหมดในขณะที่ชายหนุ่มกอดวิริยะแน่นไม่ยอมให้หนี
ให้ตัวเองได้รำลึกว่านานเหลือเกินที่ไม่ได้ทำเรื่องลามกอย่างนี้ หนำซ้ำ
ยังเกือบบังคับทำอะไรบ้า ๆ ลงไป
เขาเชื่อเลย ว่าหากเผลอรุนแรงและเอาแต่ใจครั้งนี้ไป
วิริยะคงโกรธมากแน่
เพียงแค่เห็นเด็กหนุ่มน้ำตาไหล
ซบหน้าอยู่กับดินตลิ่งแถวนั้นไม่พูดไม่จาหลังเสร็จกิจ
เชษฐ์ไชยก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เกรงว่าจะถูกเมียโกรธเหลือเกิน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น