ซินเดอเรลล่าแมน แอนด์ เดอะ บีสต์ ตอนพิเศษ ๑๐ NC

ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ




(ชาติxหมอก)


“อื้อ...” หมอกก็บอกชาติแล้วว่าต้องการอาบน้ำ ไม่รู้เหตุใดคนตัวใหญ่จึงกอดรัดฟัดเขาให้เถลไถลมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเสียได้ ชายหนุ่มหอบหายใจหลังจากริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เสือร้ายหิวโหยกินเขาด้วยความมูมมามจนอดไม่ได้ที่จะปล่อยเสียงร้องครวญ ยามอีกฝ่ายทาบทับ ใช้ลิ้นแทะเล็มลำคอ ดูดกลืนผิวเนื้ออย่างไม่สนว่าจะทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้าง
เสื้อตัวสีขาวถูกโยนออกไปทิศใดเขาไม่รู้ หมอกพริ้มตาหลับราวกับล่องลอยเคลิ้มอยู่ในฝันยามถูกสัมผัส มือสากของชาติลากไล้เค้นบีบนวดไปจนถ้วนทั่ว ผนวกกับลิ้นที่ขยับชิมทุกหนแห่งอย่างติดใจกับรสชาติ ทำให้ชายหนุ่มละลาย ตัวอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดแข็งแรงของอีกฝ่าย
หมอกไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหน ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย ขณะมองชาติกำลังถอดเสื้อเชิ้ตบนตัว ร่างหนาที่เขาคุ้นเคยปรากฏให้เห็นในไม่ช้า ก่อนมือสากจะถือวิสาสะดึงเขาให้เอื้อมไปลูบอะไรที่มันคับแน่นในกางเกงเจ้าตัว เป็นการเร้าอารมณ์ตนเองไปพลาง ชายหนุ่มพริ้มตา ภาพความสุขสมอันมีความเจ็บปวดอยู่ด้วยเมื่อคราวก่อน ๆ แล่นเข้ามาสู่สมองจนหัวใจเต้นถี่ ยามทำตามสัญชาติญาณดิบของตัวเอง
“หมอก ลืมตา” ชายหนุ่มชะงัก เห็นใบหน้าคมคายของชาติในระยะที่สัมผัสถึงลมหายใจ “มองฉันสิ มองที่ฉัน”
ทำไมต้องพูดอะไรในเวลานี้ด้วย ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่กำลังจะไหล เอื้อมกอดคนตรงหน้า
“พี่จะไม่คิดถึงคุณอัฐษ์แล้วใช่ไหม”
เมื่อทราบถึงความคิดของคนรักแล้ว ชาติต้องการทำให้เด็กตรงหน้าลืมเรื่องที่ตัวเองทำให้เจ็บปวดเมื่อก่อน มือใหญ่ไล้แก้มของหมอกเบาแผ่วราวกับประคองฟองสบู่ที่อ่อนแอเปราะบาง ระบายยิ้มเล็กน้อย เป็นยิ้มที่หมอกไม่เคยเห็นมาก่อน “อย่าอ้อนกันนักซี หัวใจคนแก่จะวายแล้ว”
น้ำเสียงที่ฟังแล้วอบอุ่น ทำให้น้ำตาร้อน ๆ ไหล แม้ว่าหมอกเองก็กำลังยิ้มอยู่ด้วยก็ตาม คนด้านใต้รับจูบอ่อนละมุนที่ชายตรงหน้ามอบให้เพื่อปลอบประโลม และเป็นคำมั่นให้เขาเลิกหวั่นใจว่าตัวเองจะไม่ใช่ที่หนึ่งของชาติอีก
ผละจูบออกแล้ว ชาติไล้หัวแม่มือบริเวณปากนุ่มหยุ่นของเด็กเบื้องหน้าอย่างนึกหลงใหล กระซาบเสียงพร่าว่า “ใครจะไปคิดถึงคนโง่พรรค์นั้นกัน ในเมื่อฉันมีเมียที่ยั่วเก่งขนาดนี้น่ะ หืม”
หมอกช้อนตามองคนด้านบน “ถ้าชอบให้ยั่วนักก็เร็วสิ รีบไม่ใช่เหรอ”
“ไม่รีบ ใครจะไปสนใจเรื่องคนอื่นกัน”
“ไม่เอาน่า คุณอัฐษ์ก็เพื่อนพี่ ไอ้ดำก็เพื่อนผม”
“แต่ตอนนี้มีแค่เรา แค่ฉันกับหมอกสองคนเท่านั้น” ชาติใช้เสียงแผ่ว ฟังดูไม่ใช่คำหวานแต่ผู้ฟังรู้สึกหวั่นไหว
หมอกไม่ขืนคำขอของอีกฝ่ายแม้แต่วินาที เขาใช้สายตามองคนนำด้านบนยามถูกมอบกอด จูบ ไม่ละหนีไปไหนสักครา จนถึงวินาทีที่ชาติถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกให้ หมอกอดที่จะอิงแอบซ่อนความอายกับหมอนไม่ได้ ยามอีกฝ่ายละเลียดสายตามองตามร่างกายเปล่าเปลือยของเขา ด้วยแววกระหายอยาก
ลมหายใจของหมอกรุนแรงขึ้น เมื่อมือใหญ่ทักทายเขาบริเวณที่เร้าอารมณ์ ดูเหมือนชาติจะรู้ว่าเขาหลบหลีกสายตาไปที่อื่น มือยาวจับคางเขาให้ผละจากหมอน รับจูบที่มูมมามขึ้นกว่าเก่า ราวกับใกล้หมดความอดทนกับการบ่มเพาะความสุขแล้ว หมอกครวญอือออในลำคอ ความกระสันแล่นเขามาจนรู้สึกมวนท้องเพราะถูกชักจูงความสุขด้วยมือใหญ่ ทำได้เพียงเกร็งหน้าท้องแน่น
ลิ้นสากลากไล้ตั้งแต่คางลงต่ำเรื่อย ๆ เคลือบร่างเขาให้ชื้นทว่าร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว ตั้งแต่เคยมีอะไรกันมา ชาติไม่เคยแวะชิมทุกอย่างบนตัวอย่างนี้มาก่อน หมอกอยู่ไม่ติดเตียงเอาเสียเลย เมื่อลมหายใจร้อนรดอยู่หน้าท้อง วนเวียนหยอกเย้าบริเวณหัวเหน่า หน้าขา และโคนขาด้านในจนหมอกทนไม่ไหว เป็นฝ่ายจับของสำคัญขึ้น ให้มันเข้าไปในช่องปากของอีกฝ่ายให้ไวที่สุด
ความร้อนของลิ้นและลมในนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก นัยหนึ่งคือไม่คิดว่าชาติจะอ้าปากยอมทำให้ วินาทีนั้นเขาไม่มีเวลาครุ่นคิดอะไรมากนัก เพราะถูกความซ่านเสียวกัดกินไปแล้วจนหมดสิ้น ไหนจะนิ้วยาวที่สอดเข้ามาหยั่งเชิงภายในตัวเขาอีก ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองครวญครางพึงพอใจเพียงไหน ไม่รู้เลยว่าบั้นท้ายที่ควรจะแนบติดบนเตียงนั้นลอยขึ้นตอบสนองรับเพียงใด หมอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ตัวเองทุรนทุรายอย่างนี้ เป็นเพราะช่องปากที่ทำให้จากด้านหน้า หรือนิ้วที่กำลังกระแทกกระทั้นเข้าออกบริเวณช่องทางด้านหลัง
มือยาวเคลื่อนไล้เส้นไหมสีดำขลับของคนทำ ดุนดันไหล่กว้างให้ผละมาแนบปากจูบแลกน้ำลาย รสชาติร่างกายของตัวเขาเองยังเจืออยู่ในนั้นให้ได้ชิม หมอกหอบหายใจ งุดมองปราการสุดท้ายของคนตัวโตตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก็ผลักให้อีกฝ่ายทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเสียเอง เห็นแววประหลาดใจของชาติ และท้ายที่สุดก็ตามมาด้วยสีหน้าเข้าใจ เมื่อเห็นหมอกขยับเข้าไปปลดเข็มขัดให้ เพื่อปล่อยเสือร้ายออกมา
ทั้งสองรู้ว่าไม่เคยปรนเปรอและเล้าโลมฝ่ายตรงข้ามนานขนาดนี้มาก่อน นั่นแหละ มันถึงได้ดูน่าตื่นเต้นทุกสัมผัสเช่นนี้ ชาติกลืนน้ำลายลงคอ สูดลมเข้าปากเมื่อเด็กตรงหน้าก้มลงใช้ปากมอบความสุขให้คืนบ้าง หมอกไม่ใช่คนเก่ง แต่หมอกทำให้มันดูลื่นไหลไปได้ ชายหนุ่มกระซาบสอน เอื้อมมือปาดคราบน้ำลายจากมุมปากให้ ลูบไล้เรือนผมเป็นการชื่นชมและแสดงออกถึงความเอ็นดู ซึ่งความน่ารักและเซ็กซี่นั้นทำให้ชาติกัดฟันอดทนจนปวดกรามไปหมด
“ฉันทนไม่ไหวแล้วหมอก เร็วเข้า”
ชาติเชยคางคนตัวเล็กกว่าขึ้นมาจูบ จับหมอกพลิกให้นอนหงายแล้วจัดท่าทางเสียเองทุกอย่างด้วยความรีบเร่ง หมอกใจเต้นระรัว มองมือใหญ่ที่จับขาเขาแหวกอ้าแล้วแทรกกายมาอยู่ระหว่างกลาง ความรีบร้อน ความกระสันอยากจะทำล้นปรี่จนออกทางสีหน้าชาติ ชวนให้รู้สึกตื่นเต้นไปหมด
เสียงทั้งสองประสานกันทันทีที่ร่างกายใหญ่แหวกว่ายเข้ามาด้านในได้สำเร็จ อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก แต่ใครที่ไหนจะสน ในเวลาเช่นนี้ยิ่งร้อนยิ่งควรเพิ่มให้มันสูงขึ้นถึงจะถูก ชาติกัดฟันกรอดจนกรามปูด ขยับเอวสอบระรัวตามความอยาก เสียงเนื้อกายกระทบกันดังสนั่นราวปืนกลในสนามรบ บรรยากาศเร่าร้อนขึ้นจนเผาร่างกายแทบไหม้เป็นจุณ
วงแขนหนาดึงคนนอนบิดกายเร่าขึ้นมานั่งบนหน้าขา ชิมรสชาติหอมหวานของเม็ดไตที่แข็งชันชี้หน้าอย่างนึกมันเขี้ยวทั้งที่เร่งเครื่องจนคนด้านบนสะเทิ้นไหว หมอกร้องไม่เป็นศัพท์ กอดและจิกแผ่นหลังคนทำอย่างบังคับตัวเองไม่ได้ ไม่รู้เหงื่อหรือน้ำตาที่ไหลทั่วทั้งหน้า ชาติยังคงจูบซับอย่างไม่นึกรังเกียจ
ไม่รู้กี่ครั้งที่หมอกเรียกชื่อของชาติ ครวญเรียกด้วยเสียงหวานหยด ชาติคงรู้ว่าไม่ได้ทำให้เขาเจ็บและตอบสนองกลับมาอย่างถึงอกถึงใจ ลำกายที่แข็งขึงบอกหมอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาชอบให้ทำทางไหนมากกว่า
หมอกไม่รู้ว่ามันกินเวลาไปนานเท่าไรและไม่สนใจ รู้เพียงว่าร่างกายร้อนราวโดนไฟเผา ลมทะเลที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาไม่ได้ช่วยอะไรเลย เขาถูกจับให้หันหลัง ยังไม่ทันตั้งตัวดีก็สะดุ้งกับความร้อนที่สอดพรวดเข้ามา มือยาวใช้หัวเตียงเป็นที่ยึดจับไม่ให้หน้าคะมำ ขณะที่คุกเข่าหันหลังให้ชาตินำพาไปถึงจุดหมาย
“พี่ชาติ...พี่ชาติ...” เสียงของหมอกบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังอ้อนวอนขอให้มากขึ้นอีก ชาติส่งเสียงฮึ่มฮั่มคำราม ขบเลียติ่งหูระบายอารมณ์ที่โหมลุกแรงขึ้น เสียงเตียงลั่น เสียงหัวเหน่ากระทบผิวเนื้อแน่นหนั่นของหมอกดังระรัวถี่กว่าเก่า
ภาพร่างโปร่งแอ่นเอวรับจนเห็นสัดส่วนร่างกำลังโค้งเว้าสวยงาม ผิวอีกฝ่ายมันขลับ อาบชุ่มด้วยเหงื่อ และส่งเสียงพอใจยามปลดปล่อยนำหน้าเขาไปนั้น ทำให้สติชาติกระเจิงจนแทบหัวใจวายดังว่า ลำแขนยาวคล้องเอวคนตรงหน้าไม่ให้สะเทิ้นหนีไปไหนสักวินาที ก่อนที่จะลุแก่ความสุขจนต้องเผลอคำรามออกมาดังกว่าเก่า ฉีดพ่นความสุขที่ห่างหายไปนานเข้าไปในร่างของคนรักจนล้นเอ่อ
ระหว่างทั้งสองเงียบไป มีเพียงลมหายใจหอบถี่คั่นกลางเท่านั้น
“อื้อ...”
ตัวหมอกกกระตุกกึกจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ยามคนด้านหลังถอนกายออก ก้มลงมองของเหลวไหลอาบออกมาจนถึงหัวเข่าด้วยลมหายใจที่ยังไม่ปกติดี ดูเหมือนชาติจะยังไม่ยอมอิ่มเอมและเพียงพอแค่นี้ วงแขนแกร่งยังคงกอด ซุกจมูกโด่งสูดดมซอกคอ ฝังจูบบริเวณลาดไหล่ซ้ำ ๆ















ความคิดเห็น