90Days พิสูจน์รัก ๒๐ NC

ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ




กันตวีย์ยังคงหลงใหลในการจูบเขาเสมอ อัครดนย์รู้สึกถึงเลือดที่วิ่งพล่านอยู่บนริมฝีปากหลังจากที่อีกฝ่ายผละออก แต่ไม่นานก็ลืมมันไปเพราะรสสัมผัสที่อื่นที่คนด้านบนมอบให้ ทุกที่ที่ลิ้นสากลาดพาดผ่านทำให้อัครดนย์หอบถี่ ร่างโปร่งสะดุ้งโหยง เมื่อมันเคลื่อนไปยังโคนขาด้านในที่ชายเสื้อปิดส่วนสงวนไว้อย่างหมิ่นเหม่ชวนลุ้น จากที่ไม่ยินยอม อัครดนย์ทำได้เพียงนอนนิ่ง แอ่นเอวรับความสุขสมจากปากคนมอบให้
“อ๊ะ” มันรู้สึกดีเกินไป
คงเพราะต่างสถานที่ ร่างกายของชายหนุ่มรู้สึกแปลก ตอบสนองสิ่งที่กันตวีย์ทำให้อย่างรวดเร็ว ถึงจะมีความสุข แต่ชายหนุ่มยังไม่ลืมที่จะลุกขึ้นมาซึมซับความรู้สึกดีด้วยการมอง มองกันตวีย์ที่ช้อนตาขึ้นมาสบขณะที่ใช้ปากมอบความสุขให้เขาอย่างเต็มใจ หลัง ๆ มานี้ กันตวีย์เก่งเรื่องใช้ปากให้เขาเหลือเกิน
นิ้วมือเรียวเคลื่อนไปสัมผัสเรือนผมของผู้กระทำผ่านเสียงหอบกระเส่าพอใจ บอกอีกฝ่ายว่าเป็นสุขเพียงไหน ไม่นาน กันตวีย์ก็นำส่งให้เขาไปสู่ฝั่งฝัน อัครดนย์ตัวเกร็งแล้วล้มตัวนอนพื้นราวเหน็ดเหนื่อยหนักหนา คนพี่ลุกขึ้นประโลมด้วยจูบไปทั่วทั้งใบหน้า ปาดซับเหงื่อให้และพร่ำบอกว่ารักอยู่ข้างหู เสียงทุ้มต่ำสะท้อนในระยะใกล้ทว่าอัครดนย์ได้ยินเพียงเสียงตัวเองครวญอยู่ในลำคอเท่านั้น
นิ้วมือเรียวยาวรุมร้อนเสียดแทงเข้ามาด้านในไม่รู้ต่อกี่ครั้ง อัครดนย์หอบหายใจกอดกันตวีย์แน่น “พี่กาย พี่กาย”
“เจ็บเหรอ”
อัครดนย์นอนนิ่งราวคนใจลอย “รู้สึกดี...”
“พี่ก็อยากรู้สึกดีบ้างเหมือนกัน” คนตัวใหญ่โน้มมาแทรกระหว่างขา
คนด้านใต้ส่ายหน้า “มีคนมา เดี๋ยวก่อน อื้อ!
เพราะจูบทำให้อัครดนย์พูดคำต่อไปไม่ได้ แต่ก็ไม่เท่าแท่งกายที่กันตวีย์กระทั้นเข้ามาทีเดียว เจ้าของร่างโปร่งกลั้นเสียงของตนเองอย่างที่สุดเมื่อยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าใครสักคนเดินมา ทว่ากันตวีย์ไม่ได้ยิน ขยับบดเอวสอบ กระหน่ำแรงตามความอยากของตนเองราวกับเสือที่กำลังหิวกระหาย ไม่นานก็ปรากฏเสียงของคนผู้นั้น
“ใครอยู่ในนั้นคะ” เสียงแม่บ้าน
แม้จะอยู่ในช่วงติดพัน กันตวีย์ชะงัก มองอัครดนย์ที่นอนยกมือปิดหน้าเพราะความอับอายก็พอจะเข้าใจ มือหนาเคลื่อนเช็ดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากคนรักอยู่ครู่หนึ่งด้วยเกรงว่าอัครดนย์จะไม่สบายตัว ลืมว่าต้องหยุดเพราะอะไร ทว่า เสียงคนพยายามหมุนลูกบิดเรียกให้ชายหนุ่มผละไปมองอีกครั้ง หากไม่ตอบกลับไป กันตวีย์เกรงว่าตัวเองจะอดทำกิจกรรมนี่ต่อแน่ ชายหนุ่มจึงจำใจเอ่ยผ่านเสียงหอบไป “ฉันเอง
“คุณกายเหรอคะ”
กันตวีย์มองคนนอนอ้าขาเบื้องหน้า กลืนน้ำลายกับท่าทีชวนเร้าอารมณ์นั้น “ใช่ ฉันทำงานอยู่”
“อื้อ” เป็นใครก็ทนไม่ไหว กันตวีย์คิดทั้งมองตาหวานเยิ้มของคนด้านใต้ นำพาตนเองไต่ขุนเขาแห่งความสุขต่ออีกอย่างไม่สนว่าจะมีใครอยู่ข้างนอก คงเพราะเป็นพื้นเปล่าทำให้กันตวีย์เกรงว่าคนรักจะปวดเมื่อย มือหนาจับให้อัครดนย์พลิกนอนตะแคง จับขาข้างหนึ่งพาดบ่ากว้าง จูบซับลงบนแก้มบอกว่ารัก
“เอ่อคุณกายอยากได้กาแฟไหมคะ เดี๋ยวฉันชงให้”
เหตุใดยังไม่ไปอีก เขาแทบจะบ้าแล้ว
ชายหนุ่มสูดลมเข้าปาก หายใจรำส่ำกระเส่า “ไม่ต้อง ไปพักเถอะ ฉันจะทำงาน อย่าให้ใครมากวนก็พอ” เสียงกันตวีย์ไม่สู้ดีเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นแม่บ้านก็ยอมรับปากและเดินจากไป จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะระเบิดความอยากที่มี กันตวีย์ขยับเปลี่ยนให้อัครดนย์คุกเข่าคลาน โน้มลงกอดมิให้สะเทิ้นหนีแม้แต่นิดเดียว
“อื้อพี่กาย ช้า ๆ”
“พี่ไม่ไหวแล้ว” ร่างอัครดนย์สะเทิ้นราวกับถูกแรงของปิศาจอัดเข้าใส่ เสียงกันตวีย์ครางฮึมฮัมหายใจกระเส่าดังอยู่ข้างหู ในขณะที่จมไปกับความสุขสมอารมณ์หมาย ในหูของผู้ถูกมอบกอดก็เต็มไปด้วยคำว่ารักที่อีกฝ่ายพร่ำบอก อย่างตั้งใจที่จะแสดงให้อัครดนย์เห็นว่าอีกฝ่ายไม่เคยรักเขาน้อยลง
“พี่กาย ช้าลงหน่อย” อัครดนย์ตัวขดงอเพราะแทบจะเป็นบ้า สะบัดหน้าราวกับจะทนไม่ไหว
คนด้านหลังไม่ฟังเขาเลย ตัวของหนุ่มลูกครึ่งสะเทิ้นรุนแรงแทบจะหัก เสียงกันตวีย์ดังลอดผ่านไรฟันอยู่ข้างหู ราวเสือร้ายกำลังขู่ ราวกับอดอยากเรื่องอย่างว่ามานานแสนนาน เพราะความรุนแรงนั้นบอกเขาว่าคนพี่จะถึงฝั่งฝันในไม่ช้า อัครดนย์เม้มปากไม่ให้ตัวเองเผลอร้องเสียงดัง ในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กระตุก ลมฟืดฟาดก็ดังลอดกระทบใบหูชายหนุ่ม พร้อมกับความร้อนที่ฉีดพุ่งเข้าสู่กายอัครดนย์ ล้นทะลักออกมาด้านนอกจนอัครดนย์รู้สึกได้
“ให้ตายสิ ทำไมคราวนี้มัน...” กันตวีย์ใช้เสียงหวิวบอกคนถูกกอด มือหนาบีบเค้นเนื้อบันท้ายอัครดนย์อย่างพึงพอใจกับความรู้สึกที่ได้รับ “เสียวเป็นบ้า...”
ไม่คิดว่าคนพี่จะพูดจาน่าอายเช่นนี้
อัครดนย์กลืนน้ำลายลงคอ ชายหนุ่มหมดเรี่ยวแรงนอนอยู่บนพื้นในขณะที่กันตวีย์ก็ตามมาติด ๆ เจ้าตัวจับหัวเข่าที่แดงนั้นของเขาไปจูบปลอบ ตามมากกกอดเขาราวลูกแมวต้องการความรักจากเจ้านาย ภายในห้องมืดสะท้อนเพียงแววตาสองคู่ที่สบกันในความเงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบเท่านั้นที่กั้นกลางทั้งสองไว้
กันตวีย์มอบจูบให้อีกครั้งอย่างรักใคร่ เคลื่อนมือเช็ดเหงื่อ จัดแจงทรงผมและเสื้อผ้าให้ราวกับรู้ว่าตนเองต้องรับผิดชอบ คนอายุน้อยกว่าเพียงยกยิ้ม ทว่าไม่ลืมที่จะต่อว่า “อย่าทำแบบนี้อีกนะ ถ้าประตูไม่ได้ล็อกจะทำยังไง พี่กายนะพี่กาย จะหื่นก็เลือกที่บ้าง”
กันตวีย์ยิ้ม “ก็พี่รักแกนี่ เห็นแกทำหน้าแบบเมื่อกี้แล้วมันน่าจับทำมิดีมิร้าย”
“เดี๋ยวเถอะ” คนฟังเคลื่อนมือหยิกแก้ม
“ก็ไหน ๆ พ่อก็ยกพี่ให้แกแล้ว อยากเข้าห้องหอฉลองกันเลยไง เป็นไง คงไม่ติดใจแล้วชวนพี่มาที่นี่อีกหรอกนะ”
“เหอะ ไอ้บ้า
“แกนี่ ไม่โรแมนติกเลยนะโอ๊ค” กันตวีย์ย่นหน้า แล้วเปลี่ยนมายิ้ม “แต่ก็รักที่เป็นแบบนี้แหละ ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้แหละ” กล่าวจบ กันตวีย์จับยกขึ้นลอยไปทิ้งตัวนอนบนโซฟา เปิดแอร์ให้ แล้วทรุดตัวนั่งลงสบตาอัครดนย์ในความสลัวเช่นนั้น “นอนพักก่อนเลย เดี๋ยวสักพักพี่จะปลุกเอง”
“แล้วพี่ล่ะ”
คนพี่ยิ้ม โน้มลงจิ้มปลายจมูกอย่างนึกเอ็นดู “พี่จะดูแลแกเอง นอนซะ พี่จะอยู่ตรงนี้แหละ”
“ไปนอนในห้องดีกว่า พี่จะได้พักด้วย”
“ไม่เป็นไร พักแค่ครู่เดียว เดี๋ยวพี่ปลุก นอนไปเถอะ” รอยยิ้มที่กันตวีย์มอบให้ตอนนี้แตกต่างจากพี่กายเมื่อสิบกว่าปีก่อนอย่างสิ้นเชิง อัครดนย์สบตาคนที่เคลื่อนสัมผัสเส้นผมปลอบประโลมด้วยรอยยิ้มนั้นอย่างผ่อนคลาย ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเชื่อใจว่ากันตวีย์จะดูแลเขาในระหว่างที่หลับอย่างดีที่สุด มือเรียวขาวเคลื่อนดึงมือกันตวีย์มากุมกอดและพริ้มตาหลับ
เห็นเช่นนั้นกันตวีย์ก็ยิ้มภูมิใจ มองคนหลับด้วยการกอดแขนเขาอย่างหลงใหล ภาพที่อัครดนย์ค่อย ๆ หลับยังคงตราตรึงใจเขา เป็นภาพที่ชวนประทับไว้อยู่ในส่วนที่ลึกสุดของใจ ไม่อยากเสียเวลานอนหลับเลย
“ผมรักพี่กาย
กันตวีย์ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นเป็นเพราะอัครดนย์ละเมอหรือไม่ ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกปีติอย่างหาที่เปรียบมิได้ นานเท่าไรมิทราบที่คำนั้นสะกดให้เขายิ้มกับตนเอง พร้อมด้วยการจับมองใบหน้าของคนรักยามหลับใหล เชื่อแล้วว่าอัครดนย์รักเขาและยกโทษให้จริง ๆ
บาดแผลของเขา หายแล้ว
หายเป็นปลิดทิ้งเลย เมื่อได้ฟังอัครดนย์พูดยามมีความสุข
ต่อให้เขาพูดอีกเป็นกี่ล้านครั้ง กันตวีย์ก็จะพูดเพื่อให้คนรักรู้
“พี่ก็รักโอ๊ค
เป็นความจริงที่อัครดนย์ควรได้ฟังจากปากเขาทุกวัน ไปจนตลอดชีวิต


ความคิดเห็น