ดอกไม้ป่าที่ริมหน้าต่าง ตอนที่ ๑๗ NC


ห้ามคลิกขวาและลากเมาส์คลุมข้อความ




“ดะ...” เดี๋ยวก่อน แค่จูบเท่านั้นเอง ชายหนุ่มไม่คิดว่าเคลวินน์จะด่วนใจจับเขานอนหงายอยู่ริมทะเลสาบไม่อายฟ้าดินถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มหอบหายใจ ยามจมูกของอีกฝ่ายเคลื่อนดอมดมสำรวจเขาไปทั่วร่าง
“ข้าคิดถึงเรือนร่างงดงามของเจ้า คิดถึงเสียงครวญของเจ้า คิดถึงท่วงท่ายวนยั่วของเจ้า”
แวนกัสกลืนน้ำลาย “อะไรอีก”
“ข้าคิดถึงเท้าน้อย ๆ คิดถึงก้นกลมงอน คิดถึง...” เสียงลมหายใจมันต่ำพร่า สูดลมเข้าปอดลึกสุดใจ ยามหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของชายหนุ่ม “คิดถึงสิ่งนี้...”
มันงับหยอกเย้าเสียแวนกัสสะดุ้งโหยง ขนลุกเกรียวเสียทีเดียวทั้งร่างกาย ชายหนุ่มตัวแอ่นขึ้นอย่างไม่อาจปิดบังได้แล้วว่ายามนี้ แค่เพียงโดนแตะน้อยนิดเขาก็สนองตอบไปหมดสิ้น
เคลวินน์เก่งขึ้นเกินไป ตลอดระยะเวลาฤดูร้อนปีนั้น อีกฝ่ายเรียนรู้ไวอย่างก้าวกระโดด ชั่วพริบตาเดียวก็ชักนำความสุขให้แวนกัสยินยอมพร้อมใจได้เสียทุกครั้งอย่างง่ายดาย
“ให้ข้าชิมเรือนร่างของเจ้าที เมียข้า”
เสียงของเคลวินน์เต็มไปด้วยความใคร่ แวนกัสเหมือนถูกมนต์สะกด ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองอย่างไม่อาจขืนได้ ไม่ใช่มนต์อันใดกำลังหลอกล่อชายหนุ่มรู้ดี ก็แค่ความกระหายอยาก แค่เขาอยากจะสัมผัสถึงความสุขสมหลังจากที่ห่างหายไปนานถึงสิบหกปี
ไม่ว่าจะสัมผัสเร้าตัวเองอย่างไร ก็ไม่มีทางเหมือนยามถูกเคลวินน์ทำให้
“อึก...” ชายหนุ่มกำพื้นหญ้าแน่น ยามลิ้นนุ่มหยุ่นลามเลียหน้าท้อง เขี้ยวใหญ่ครูดลากตามแนวซี่โครงราวจงใจหลอกล่อ ท้ายที่สุดก็ดูดดุนอยู่บริเวณบั้นเอวของแวนกัสราวกับติดใจรสชาติแถวนั้น ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มหายใจติดขัดขึ้นมา
“เคลวินน์ ฉัน...” มือขาวลูบเส้นไหมสีเงินมือสั่น “ฉันอยากให้นาย เลีย...”
อีกฝ่ายผละขึ้นมาสบตา “เจ้าต้องการให้ข้าทำที่ใด เมียข้า”
“ตรงที่นายคิดถึง”
“ข้าคิดถึงทุกอย่างของเจ้า”
แวนกัสเม้มปากอย่างนึกกระดาก แล้วจำต้องขยับอ้าขาเชิญชวน “ตรงนี้...”
ได้ยิน รอยยิ้มจึงผุดขึ้นประดับใบหน้ารูปหล่อ เป็นยิ้มที่ทำแวนกัสอายกว่าเก่า
“ข้าคิดว่าอยากจะเก็บของโปรดไว้ทำเป็นสิ่งสุดท้าย...” แต่ไม่ขัดศรัทธา
แวนกัสสะดุ้งโหยง ยามลิ้นอุ่นและช่องปากครอบครองชายหนุ่มไปจนหมดสิ้น ตัวร้อนราวกับถูกไฟลนให้ดิ้นพล่าน แน่แล้ว...คงจะเป็นไฟแห่งราคะที่เคลวินน์กำลังทยอยเติมเชื้อเข้ามาในร่างกายชายหนุ่มอย่างไม่หยุดหย่อน
เท้าแวนกัสจิกเกร็ง ขาที่ว่าอ้ากว้างอยู่แล้วยกเกาะรวบคอยักษ์ใหญ่อย่างนึกพอใจ มือเล็กน้อยก็ลูบจับเส้นไหมสีเงินเชยชมเบามือ แวนกัสอยากจะบ้า ช่วงเวลาที่ทั้งคู่หายห่างจากกันนั้นนานเสียจนชายหนุ่มนึกอยากจะคลั่ง โดยเฉพาะร่างกายที่แสดงออกไปอย่างน่ากระดากอายเช่นนี้
“เคลวินน์ เคลวินน์ ที่รัก...”
เจ้าตัวใหญ่ชะงัก มันผละออกมาเลียที่ริมฝีปากตนเองอยู่ครู่หนึ่ง
“เสียงเจ้าหวานจนหัวใจข้าเต้นแรง”
“กอดฉันหน่อย”
แวนกัสเช็ดน้ำตา เขาไม่อยากห่างอีกฝ่าย เพียงแค่วินาทีเดียวก็ไม่อยาก สิ้นคำของเขา รอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาประดับบนใบหน้าของยักษ์แสนซื่อ มันยิ้มกว้างให้เขาเห็นเขี้ยวน่ามอง กระเถิบมากอดจูบกันท่ามกลางแสงแดดจ้าของพระอาทิตย์ยามสาย “อย่าออดอ้อนข้านัก”
แวนกัสเม้มปาก พยายามจะไม่ส่งเสียงดัง เมื่อนิ้วมือใหญ่ขยับเข้ามาในกาย
“เบา ๆ หน่อย ฉันไม่ได้ทำการบ้านมาหลายปีแล้ว”
“ข้าอ่อนโยนที่สุดแล้ว เมียข้า” เจ้ายักษ์บอก
“อือ อ๊า...”
ร่างโปร่งสะดุ้ง ยามอีกฝ่ายโดนเข้ากับส่วนที่รู้สึกดี แต่เพราะคิดว่าตัวเองอายุมากแล้ว จะให้มาครวญครางส่งเสียงเหมือนเด็ก ๆ คงไม่น่าฟังเท่าไร แวนกัสหอบหายใจหนักอย่างพยายามที่สุดที่จะเก็บงำเอาไว้ แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ไม่เป็นผล ดูเหมือนเคลวินน์จะจงใจรังแกชายหนุ่ม “เฮือก! อย่า..อย่าทำฉันแรงนัก...”
“ให้ข้าฟังชัด ๆ ว่าเจ้าสุขสม”
“ฮื่อ มันน่าอาย”
“ไม่มีอะไรน่าอาย เมียข้า เจ้าทั้งงดงามและเสียงก็เพราะ” เคลวินน์กระซิบพร่า “เร็วเข้า...”
แย่แล้ว แย่แน่ ๆ
“อือ ตรงนั้นเคลวินน์ ฉันจะ...จะ...”
ขาที่อ้าออกกว้างของแวนกัสหนีบเข้าหากันอย่างเป็นไปเอง ให้ได้ความรู้สึกที่แนบแน่นขึ้น ชายหนุ่มร้องเสียงหลงหลับตาปี๋ ยามนิ้วใหญ่ของอีกฝ่ายช่วยให้แวนกัสไต่อารมณ์ไปถึงฝั่งฝันเร็วรัวเกินไปจนแทบหายใจไม่ทัน
เจ้ายักษ์ร้ายเมียงมองชายหนุ่มที่กำลังมีความสุขอย่างพึงพอใจ มันกลืนน้ำลายบ่อยขึ้น ยามเห็นร่างของแวนกัสดิ้นอยู่ไม่สุข ปล่อยสารแห่งความสุขพวยพุ่งออกมามากมายรดอยู่บนหน้าท้อง ราวกับคนกำลังจะขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อ
ตัวแวนกัสยังคงล่องลอย พริ้มตาไปกับความหวามไหวถึงขีดสุดของตัวเองอย่างมึนเบลอราวกับดื่มไวน์ไปหลายขวด
“อื้อ!
แค่นิ้วเอง แค่นิ้วก็ทำแวนกัสละลายนอนสิ้นท่าได้เช่นนี้ เคลวินน์ร้ายกาจเกินไป


ความคิดเห็น